วัดถ้ำน้ำบัง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ดูภาพด้านล่าง)
หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ไปเที่ยวชมศิลปะ วัฒนธรรมตามวัดต่าง ๆ มาบ้างแล้ว และบางท่านก็เคยไปเที่ยวถ้ำต่าง ๆ เช่นกัน แต่ในวันนี้ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) จะพาทุกท่านไปเที่ยวยังวถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งวัด และมีทั้งถ้ำให้เที่ยวในสถานที่เดียวกัน นั่นคือ “วัดถ้ำน้ำบัง”
วัดถ้ำน้ำบัง เป็นวัดที่มีหลากหลายตำนานเกี่ยวกับที่มาของวัด ซึ่งทีมงานของเราก็ไม่สามารถทราบได้ว่าเรื่องจริงที่สุดเป็นอย่างไร จึงไม่ได้นำตำนานต่าง ๆ มาเล่าให้ทุกท่านฟัง ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ตั้งของถ้ำน้ำบังซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะผ่านมาเที่ยวชมนาน ๆ สักคณะหนึ่งในวันธรรมดา แต่วันเสาร์-อาทิตย์นักท่องเที่ยวก็จะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยเนื่องด้วยภูมิประเทศที่ตั้งของวัดเป็นถ้ำบนเขาจึงต้องมีการปีนป่ายบันไดสูงหลาย ๆ สิบขั้นเพื่อที่จะไปถึงตัววัด แต่ด้วยความพยายามและไม่ย่อท้อของเหล่าทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) ของเรา จึงพากันมาถึงวัดถ้ำน้ำบังกันจนได้ ้
|
ด้วยความพยายามแม้ว่าบันไดจะกี่ร้อยขั้นทีมงานเราก็ไม่หวั่น |
|
บริเวณห้องถ้ำโถงของถ้ำน้ำบังที่มีการจัดเป็นห้องต่าง ๆ สำหรับนั่งวิปัสสานากรรมฐาน (ภาพที่ 1,2และ4) |
|
รอบนอกของถ้ำน้ำบังที่พบเห็นหินงอกหินย้อย (ภาพที่1) และภายในห้องถ้ำโบสถ์ (ภาพที่ 3) |
|
เห็ดหินงอกบนหน้าผาสูง (ภาพที่ 1) และต้นไม้ปริศนาธรรม แห่งความกตัญญู (ภาพที่ 2 และ 3)
และด้านหน้าถ้ำน้ำบัง (ภาพที่ 4)
|
ภายในถ้ำน้ำบังนั้น มีสิ่งที่น่าสนใจ คือห้องคูหาที่ไม่ซับซ้อนเหมือนเขาวงกต แต่ก็มีห้องต่าง ๆ มากมาย เช่น ห้องถ้ำโบสถ์ อยู่บริเวณปากถ้ำ ลักษณะพิเศษของห้องถ้ำโบสถ์คือ ตามผนังถ้ำจะเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปต่าง ๆ มากมายหลายองค์ เพดานห้องนี้สูงโปร่ง การระบายอากาศดีไม่อึดอัด ห้องถัดไปคือ ห้องถ้ำโปร่งฟ้า จากห้องนี้เราสามารถเดินทางไปยังห้องนั่งวิปัสสานากรรมฐานได้ เนื่องจากเพดานห้องนี้เป็นช่องว่างต่อไปยังภายนอกการไหลเวียนอากาศจึงเป็นไปอย่างสะดวก (จากห้องวิปัสสนากรรมฐานทางทีมงานของเราได้พบกับผู้ดูแลทำความสะอาด ได้พาทีมงานของเราไปชมเห็ดหิน คือหินงอกคล้ายกลุ่มเห็ดอยู่บนชะง่อนผาด้านบน พี่ต้นกล้าจึงถ่ายรูปมาฝากทุกท่าน แต่เนื่องจากอยู่บนผาสูงอาจจะเก็บภาพมาได้ไม่ชัด) ถัดมาเป็นห้องถ้ำโถง ซึ่งมีการก่อสร้างที่นั่งวิปัสสนากรรมฐานเป็นห้อง ๆ คล้ายอพาร์ทเม้นท์ จากห้องนี้ท่านสามารถเลือกเดินทางได้สองทางคือ ออกไปด้านข้างจะพบกับต้นไม้ปริศนาธรรม (เป็นลักษณะต้นไม้สองต้นที่สามารถยืนต้นได้โดยไม่ล้มจากการที่ทั้งสองต้นเกี่ยวพิงกัน โดยต้นเล็กจะค้ำยันต้นใหญ่ไว้ เปรียบเสมือนบุตรที่ต้องคอยช่วยเหลือดูแลบิดามารดาเพื่อตอบแทนคุณท่าน) และมีบันไดเหล็กซึ่งสามารถไปยังส่วนยอดถ้ำได้ แต่ปัจจุบันบันไดทรุดโทรมและไม่ได้รับการบูรณะ จึงไม่สามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์บนยอดถ้ำได้
หรือจะเดินลงสู่เส้นทางแคบและเล็กลงสู่ห้องถ้ำระฆังที่ด้านขวาของห้องนี้มีหินงอกหินย้อยรูประฆังเมื่อตีจะมีเสียงดังกังวาน แต่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรายังจินตนาการไม่ออก เนื่องจากปัจจุบันรูปร่างแทบจะสังเกตไม่เห็นว่าเป็นรูประฆัง และมีมูลค้างคาวเป็นจำนวนมาก ที่ส่งกลิ่นทำลายโสตประสาทโดยเฉพาะทีมงานที่เป็นภูมิแพ้ของเรา จึงต้องรีบจรลีออกจากบริเวณไปกันอย่างว่องไว เมื่อเที่ยวชมกับครบทุกห้องภายในถ้ำแล้วก็ได้เวลาอำลาจากวัดถ้ำน้ำบังสู่เคหสถานเพื่อการพักผ่อนต่อไป
การเดินทาง (ขอบคุณข้อมูลการเดินทางจากหนังสือนายรอบรู้ "เพชรบูรณ์")
โดยรถยนต์ จากอำเภอหนองไผ่ใช้ทางหลวงหมายเลข 21 จนถึงสามแยกบ้านนายม จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2007 ไปทางบ้านนายมประมาณ 3 กม. พบสี่แยกให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 4 กม. เมื่อพบสามแยกที่สอง ให้เลี้ยวขวาไปประมาณ 50 เมตร พบทางเข้าวัดอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 500 เมตร ถึงบริเวณวัด
หมายเหตุ : ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเก็บข้อมูล วัดถ้ำน้ำบัง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อ ธ.ค.2552
|